วันที่นำเข้าข้อมูล 17 ก.ย. 2564
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 23 ก.ค. 2567
1. หลักเกณฑ์
1.1 การเปลี่ยนนามสกุลในทะเบียนราษฎร หรือ การบันทึกฐานะครอบครัว
ภายหลังการสมรส/หย่า ต้องดำเนินการที่ประเทศไทยเท่านั้น
1.2 บุคคลที่จดทะเบียนสมรส/หย่าภายใต้กฎหมายสหรัฐฯ
และต้องการจะเปลี่ยนนามสกุลหลังการสมรส/หย่า ต้องยื่นคำร้องขอบันทึกฐานะแห่งครอบครัว
และขอเปลี่ยนนามสกุลในทะเบียนราษฎร ที่สำนักงานเขต/อำเภอที่ประเทศไทยเท่านั้น
1.3 กรณีที่ผู้ร้องจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายสหรัฐฯ จะต้องนำทะเบียนสมรส/หย่า
ที่ออกหน่วยราชการสหรัฐฯ ไปผ่านการรับรองเอกสาร 3 ขั้นตอนในสหรัฐอเมริกา ดังนี้
1.3.1 ผ่านการรับรองจาก Secretary of State ของรัฐที่ออกเอกสาร
1.3.2 ผ่านการรับรองจาก U.S. Department of States และ
1.3.3 ผ่านการรับรองจาก สถานกงสุลใหญ่ฯ
ก่อนที่จะนำไปใช้ที่ประเทศไทย
1.4 สถานกงสุลใหญ่ฯ ไม่รับรองลายมือชื่อในเอกสารที่กรอกข้อความไม่ครบถ้วน
1.5 สถานกงสุลใหญ่ฯ รับรองเฉพาะลายมือชื่อ ไม่รับรองข้อความใดๆ ที่ปรากฎในเอกสาร
2. ขอบเขตการให้บริการ
สถานกงสุลใหญ่ฯ ณ นครลอสแอนเจลิส ให้บริการสำหรับคนไทยที่พำนักใน 13 รัฐในเขตอาณา คือ
1) แคลิฟอร์เนีย 2) โคโลราโด 3) เนวาดา 4) นิวเม็กซิโก 5) มอนทานา 6) ยูทาห์ 7) วอชิงตัน
8) ไวโอมิง 9) อะแลสกา 10) แอริโซนา 11) ออริกอน 12) ไอดาโฮ 13) ฮาวาย
(รวมทั้ง เกาะกวมและดินแดนของสหรัฐฯ ในมหาสมุทรแปซิฟิก)
3. ขั้นตอนการรับรองเอกสาร 4 ขั้นตอน ดังนี้
3.1 ขั้นตอนที่ 1 –> การรับรองทะเบียนสมรส/หย่าที่ Secretary of State ของรัฐที่ออกเอกสาร
ท่านจะต้องนำเอกสารไปขอรับการรับรองจาก Secretary of State หรือ State Authentication ของรัฐที่ออกเอกสาร
โดยท่านสามารถดูข้อมูลของหน่วยงานและสถานที่สำหรับส่งเอกสาร (โดยกดรูปด้านล่าง)
ท่านสามารถหาข้อมูลของหน่วยงานและสถานที่สำหรับส่งเอกสารไปรับรองได้ที่
http://www.nass.org/business-services/apostillesdocument-authentication-services
(เลือก Business Services > Apostilles/Authentications > เลือกมลรัฐที่ออกเอกสารท้องถิ่นให้)
3.2 ขั้นตอนที่ 2 –> การรับรองทะเบียนสมรส/หย่าที่ U.S. Department of State, Washington DC (กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ)
ท่านจะต้องนำเอกสารดังกล่าวที่ผ่านการรับรองตามขั้นตอนที่ 1 ส่งไปให้
U.S. Department of State ทำการรับรอง โดยท่านสามารถดูข้อมูลวิธีการส่งเอกสารไปรับรองได้ (โดยกดรูปด้านล่าง)
ท่านสามารถหาข้อมูลของหน่วยงานข้างต้น สำหรับการจัดส่งเอกสารไปรับรองได้ที่
https://travel.state.gov/content/travel/en/legal-considerations/judicial/authentication-of-documents/office-of-authentications.html
Physical Address: Office of Authentications U.S. Department of State 600 19th Street, NW Washington, DC 20006 |
3.3 ขั้นตอนที่ 3 –> การรับรองทะเบียนสมรส/หย่าที่ สถานกงสุลใหญ่ฯ
3.4 ขั้นนตอนที่ 4 –> การดำเนินการที่ประเทศไทย
ได้แก่ การแปลเอกสาร
การรับรองคำแปลที่กรมการกงสุล และ
การนำไปยื่นต่อสำนักงานเขต/อำเภอ
4. เอกสารที่ต้องใช้ในการรับรองขั้นตอนที่ 3
4.1 คำร้องนิติกรณ์ –> กรอกคำร้องออนไลน์ คลิกที่นี่
4.2 บัตรประจำตัวประชาชนไทย หรือหนังสือเดินทางไทยที่มีอายุการใช้งานของ คู่สมรสสัญชาติไทย
4.3 หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานของ คู่สมรสชาวต่างชาติ
4.4 บันทึกข้อตกลงการใช้ชื่อสกุล 1 ฉบับ
ซึ่งสามี (ชาวต่างชาติ) ต้องลงนามและได้รับการรับรองลายมือชื่อจาก Notary Public (แบบฟอร์ม –> คลิกที่นี่ )
4.5 ให้นำบันทึกข้อตกลงไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ และไปผ่านการรับรองจาก
4.5.1 Secretary of state และ
4.5.2 U.S. Department of State ตามลำดับ
4.6 ทะเบียนสมรสสหรัฐฯ ฉบับจริงที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานสหรัฐฯ ทั้ง 2 ขั้นตอน (3.1-3.2) แล้ว
4.7 หนังสือมอบอำนาจ 1 ฉบับ (กรณีผู้ร้องและคู่สมรสไม่สามารถเดินทางไปแสดงตนที่สำนักงานเขต/อำเภอ)
ในกรณีที่ไม่สามารถเดินทางไปดำเนินการ ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ท่านจะต้องดำเนินการ ดังนี้
4.7.1 คู่สมรส (สามี / ภรรยา) ต้องทำ “บันทึกข้อตกลงการใช้ชื่อสกุล” ณ สถานกงสุลใหญ่ฯ
4.7.2 นำทะเบียนสมรสสหรัฐฯ ที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานสหรัฐฯ 3 ขั้นตอนแล้ว
ไปรับรองคำแปลภาษาไทยที่กรมการกงสุล
4.7.3 ภรรยาต้องทำหนังสือมอบอำนาจให้บุคคลที่ประเทศไทย
เป็นผู้ดำเนินการแก้ไขนามสกุลในทะเบียนบ้านแทน
(ดูรายละเอียดการมอบอำนาจ ที่นี่)
5. ค่าธรรมเนียม
อัตรา 15 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อตราประทับ
โดยในกรณีนี้จะมีการรับรองเอกสาร 3 รายการ ประกอบด้วย
5.1 บันทึกข้อตกลงการใช้ชื่อสกุล
5.2 การรับรองทะเบียนสมรสสหรัฐฯ
5.3 หนังสือมอบอำนาจ
จึงมีค่าธรรมเนียม รวม 45 ดอลลาร์สหรัฐ
6. การชำระค่าธรรมเนียม
ชำระด้วย Money Order หรือ Cashier’s Check
สั่งจ่าย Royal Thai Consulate – General, Los Angeles
(ไม่รับเงินสด เช็คส่วนตัวและบัตรเครดิต)
7. การยื่นคำร้อง
ยื่นคำร้องทางไปรษณีย์เท่านั้น โดยท่านจะต้องดำเนินการ ดังนี้
– เตรียมซองติดแสตมป์พร้อมจ่าหน้าซองถึงตัวท่านให้ชัดเจน
– กรอกแบบฟอร์ม Notary Public และขอรับรองลายมือชื่อต่อหน้า Notary Public –> คลิกที่นี่
– ส่งเอกสารทั้งหมด พร้อมค่าธรรมเนียมและซองติดแสตมป์ไปยังสถานกงสุลใหญ่ฯ
– สถานกงสุลใหญ่ฯ ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 5-7 วันทำการนับจากวันที่ได้รับเอกสาร
– สำหรับระยะเวลาที่ท่านจะได้รับเอกสารคืนขึ้นอยู่กับอัตราค่าแสตมป์และประเภท
การจัดส่งทางไปรษณีย์ที่ท่านเลือก
ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ไม่รับผิดชอบกรณีเอกสารสูญหายทางไปรษณีย์
8. ที่อยู่ / สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Legalization Section
Royal Thai Consulate – General
611 N. Larchmont Boulevard, 2nd Fl.,
Los Angeles, CA 90004
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Add LINE@ สถานกงสุลใหญ่ฯ คลิกที่ ->
Download Form |
1. แบบคำร้องออนไลน์ คลิกที่นี่ 2. หนังสือมอบอำนาจทั่วไป [ Download ] 3. บันทึกข้อตกลงการใช้ชื่อสกุล [ Download ] 4. แบบฟอร์มโนทารี่ พับบลิค / Notary Public Form (กรณียื่นเอกสารทางไปรษณีย์ [ Download ] |
เวลาทำการ : จันทร์-ศุกร์ ช่วงเช้า 9:00-12:00 น. ช่วงบ่าย 13.00 - 16.00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)